ฤกษ์แต่งงานตามมหาทักษา 2570 คุณควรเลือกวันพิเศษหรือไม่?
ฤกษ์มหาทักษา 2570 Thai months with auspicious days for […]
ฤกษ์มหาทักษา 2570
Thai months with auspicious days for marriage:
- January: 12-14, 22-25
- February: 10-14, 20-23
- March: 10-14, 20-23
- April: 8-12, 19-23
- May: 6-10, 18-21
- June: 4-8, 16-19
- July: 2-6, 14-17
- August: 1-4, 13-16
- September: 11-15, 22-25
- October: 9-13, 20-23
- November: 7-11, 18-21
- December: 5-9, 17-20## ฤกษ์แต่งงานตามมหาทักษา 2570 คุณควรเลือกวันพิเศษหรือไม่?
สรุปประเด็นสำคัญ
การพิจารณาฤกษ์แต่งงานตามมหาทักษาเป็นความเชื่อโบราณที่คู่รักหลายคู่ให้ความสำคัญมาอย่างยาวนาน โดยเชื่อว่าการเลือกวันแต่งงานที่เป็นมงคลจะช่วยเสริมความสุขสมหวัง ความเจริญรุ่งเรือง และความยั่งยืนให้กับคู่บ่าวสาว แต่ในปัจจุบันที่มีวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวหน้า หลายคนก็ตั้งคำถามว่าการพิจารณาฤกษ์แต่งงานตามมหาทักษาในปี 2570 ยังมีความจำเป็นหรือไม่ และบทความนี้จะช่วยให้คุณหาคำตอบได้
บทนำ
ฤกษ์แต่งงานตามมหาทักษาคือการคำนวณหาช่วงเวลาที่เป็นมงคลสำหรับการแต่งงานโดยพิจารณาจากหลักโหราศาสตร์ไทย โดยฤกษ์ที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือฤกษ์มงคล 6 ประการ ได้แก่ ฤกษ์โภคทรัพย์ ฤกษ์จันทร์เพ็ญ ฤกษ์มหัทธโนฤกษ์ ฤกษ์โสภณฤกษ์ ฤกษ์มงคลฤกษ์ และฤกษ์โภคจุลศักราช
คำถามที่พบบ่อย
1. การพิจารณาฤกษ์แต่งงานตามมหาทักษามีความจำเป็นแค่ไหน?
คำตอบ: ความจำเป็นของการพิจารณาฤกษ์แต่งงานตามมหาทักษาขึ้นอยู่กับความเชื่อและความศรัทธาของแต่ละบุคคล หากคู่รักคู่ใดมีความเชื่อเรื่องโหราศาสตร์และต้องการเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตคู่ การเลือกวันแต่งงานที่เป็นมงคลก็สามารถเป็นทางเลือกที่ดีได้
2. ฤกษ์แต่งงานตามมหาทักษาเป็นสิ่งตายตัวหรือไม่?
คำตอบ: ฤกษ์แต่งงานตามมหาทักษาไม่ใช่สิ่งตายตัว เนื่องจากมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อความเป็นมงคล เช่น เวลาเกิดของบ่าวสาว ทิศทางของบ้าน และลัคนาของบ่าวสาว ดังนั้นการพิจารณาฤกษ์แต่งงานควรคำนวณจากข้อมูลส่วนบุคคลของคู่บ่าวสาว
3. นอกจากการพิจารณาฤกษ์แต่งงานตามมหาทักษาแล้ว มีปัจจัยอื่นๆ ที่ควรคำนึงถึงในการเลือกวันแต่งงานหรือไม่?
คำตอบ: นอกจากการพิจารณาฤกษ์แต่งงานตามมหาทักษาแล้ว ปัจจัยอื่นๆ ที่ควรคำนึงถึงในการเลือกวันแต่งงาน ได้แก่ ความหมายของวันในปฏิทินไทย ฤดูกาล สภาพอากาศ และความพร้อมของคู่บ่าวสาวและครอบครัว
5 ปัจจัยสำคัญในการพิจารณาฤกษ์แต่งงานตามมหาทักษา
1. คู่ธาตุของบ่าวสาว
การพิจารณาคู่ธาตุของบ่าวสาวเป็นสิ่งสำคัญลำดับแรกในการเลือกฤกษ์แต่งงาน โดยธาตุของบ่าวสาวทั้ง 4 ได้แก่ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ และธาตุลม หากเลือกฤกษ์แต่งงานที่ส่งเสริมคู่ธาตุของบ่าวสาว จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งและความสมดุลให้กับชีวิตคู่
2. ทิศมงคลสำหรับพิธีแต่งงาน
ทิศมงคลสำหรับพิธีแต่งงานคือทิศที่ส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองและความสุขสมหวังให้กับคู่บ่าวสาว โดยทิศมงคลจะเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละวันและแต่ละปี ดังนั้นควรคำนวณหาทิศมงคลในปีที่ต้องการแต่งงาน
3. ทิศธาตุของคู่บ่าวสาว
นอกจากทิศมงคลสำหรับพิธีแต่งงานแล้ว ควรพิจารณาทิศธาตุของคู่บ่าวสาวด้วย โดยทิศธาตุคือทิศที่สอดคล้องกับธาตุของบ่าวสาว หากจัดพิธีแต่งงานในทิศธาตุ จะช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลและความกลมกลืนให้กับคู่บ่าวสาว
4. ดาวสำคัญในดวงชะตาของบ่าวสาว
ดาวสำคัญในดวงชะตาของบ่าวสาวที่ควรพิจารณา ได้แก่ ดาวมฤตยู ดาวเสาร์ ดาวพุธ ดาวศุกร์ และดาวจันทร์ โดยดาวเหล่านี้จะมีอิทธิพลต่อชีวิตคู่ การงาน และความมั่งคั่ง หากฤกษ์แต่งงานส่งผลให้ดาวสำคัญในดวงชะตาของบ่าวสาวอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ดี อาจก่อให้เกิดปัญหาหรืออุปสรรคในชีวิตคู่ได้
5. วันที่เป็นกาลกิณี
วันกาลกิณีคือวันที่ไม่เป็นมงคลสำหรับการประกอบการมงคลต่างๆ รวมถึงการแต่งงาน หากเลือกฤกษ์แต่งงานตรงกับวันกาลกิณี อาจนำพาความโชคร้ายและอุปสรรคต่างๆ มาสู่คู่บ่าวสาวได้
สรุป
การพิจารณาฤกษ์แต่งงานตามมหาทักษาเป็นความเชื่อโบราณที่ยังคงได้รับความนิยมในปัจจุบัน โดยเชื่อว่าการเลือกวันแต่งงานที่เป็นมงคลจะช่วยเสริมความสุขสมหวัง ความเจริญรุ่งเรือง และความยั่งยืนให้กับคู่บ่าวสาว อย่างไรก็ตามการพิจารณาฤกษ์แต่งงานตามมหาทักษาไม่ใช่สิ่งตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ทั้งจากหลักโหราศาสตร์และจากความพร้อมของคู่บ่าวสาว ดังนั้นหากคู่รักคู่ใดที่ต้องการเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิตคู่ การพิจารณาฤกษ์แต่งงานตามมหาทักษาสามารถเป็นทางเลือกที่ดีได้
คำหลัก
- ฤกษ์แต่งงาน
- มหาทักษา
- โหราศาสตร์ไทย
- คู่ธาตุ
- ทิศมงคล